เส้นผมคนเราแบ่งตามรูปร่างลักษณะได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ ผมตรง และ ผมหยิก การที่เส้นผมมีรูปร่างแตกต่างกันนี้มีสาเหตุมาจากองค์ประกอบหลักอย่างหนึ่งในโครงสร้างของเส้นผม นั่นคือ พันธะไดซัลไฟด์
พันธะไดซัลไฟด์ (disulfide bond) คือ
พันธะที่เกิดจากการเชื่อมต่อของกรดอะมิโนชื่อ ซิสเทอีน (cysteine) ซึ่งมีอยู่เป็นปริมาณมากภายในชั้นเคราทิน (keratin) ที่ห่อหุ้มเส้นผม ปริมาณของซิสเทอีนที่จับตัวกันเป็นพันธะไดซัลไฟด์ ซึ่งเป็นตัวกำหนดรูปร่างเส้นผมว่าตรงหรือหยิก ทั้งนี้ลักษณะของเส้นผมยังเกี่ยวข้องกับรูปร่างของรูขุมขนด้วยเช่นกัน กล่าวคือ ถ้ารูขุมขนเป็นรูปวงกลม จะเกิดพันธะไดซัลไฟด์ได้น้อย เส้นผมจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง แต่ถ้ารูขุมขนเป็นรูปวงรี จะเกิดพันธะไดซัลไฟด์มาก ทำให้เส้นผมมีลักษณะหยิก ยิ่งมีพันธะไดซัลไฟด์มากก็ยิ่งหยิกมาก
ในเมื่อพันธะไดซัลไฟด์เป็นองค์ประกอบหลักในการกำหนดรูปร่างของเส้นผม การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของผม ไม่ว่าจะเป็นการยืดผม (hair relaxing) หรือการเปลี่ยนผมหยิกให้เป็นผมตรง และการดัดผม (hair perming) หรือการเปลี่ยนผมตรงให้เป็นผมหยิก จึงมีหลักการสำคัญอยู่ที่การทำให้พันธะไดซัลไฟด์ในเส้นผมเปลี่ยนรูปแบบการเรียงตัว
และนี่คือคุณสมบัติของน้ำยายืดผมและน้ำยาดัดผม นั่นเอง!
สารเคมีสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับยืดผมและดัดผม อาทิ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide) กัวนิดีนไฮดรอกไซด์ (guanidine hydroxide) หรือ แอมโมเนียมไธโอไกลโคเลต (ammonium thioglycolate) ล้วนแต่มีหน้าที่หลักคือ ทำลายพันธะไดซัลไฟด์ที่มีอยู่เดิมในเส้นผม ทำให้เส้นผมอ่อนตัว สามารถจัดรูปทรงได้ใหม่ตามต้องการ เช่น ใช้โรลม้วนผมเพื่อจัดแต่งให้เส้นผมหยิก หรือใช้แผ่นเหล็กเรียบเพื่อจัดผมให้ตรง ปล่อยทิ้งไว้สักพัก ซิสเทอีนในทรงผมที่ถูกจัดแต่งใหม่จะจับตัวกันเป็นพันธะไดซัลไฟด์ชุดใหม่ ทำให้ผมซึ่งถูกดัดหรือยืดคงรูปร่างใหม่ไว้
อย่างไรก็ตาม น้ำยาดัดผมและน้ำยายืดผมแค่เปลี่ยนโครงสร้างพันธะไดซัลไฟด์ในเส้นผมชั่วคราว ไม่ได้ให้ผลถาวร ทั้งนี้เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก็มีอายุการใช้งานแตกต่างกันไป นอกจากนั้น เส้นผมที่งอกยาวขึ้นมาใหม่ของคนเราจะมีพันธะไดซัลไฟด์แบบดั้งเดิม ดังนั้นหากปล่อยผมให้ยาวต่อไปสักพัก ผมที่งอกใหม่จะมีลักษณะตรงหรือหยิกตามโครงสร้างผมเดิมของเรา
แต่การดัดผมหรือยืดผมติดต่อกันบ่อยๆ จะทำให้ผมถูกทำลายได้ เพราะเส้นผมเสียสมดุลค่า pH (ความเป็นกรด-ด่าง) ผมชั้นนอกถูกเปิดออก แกนกลางโป่งพอง เกิดรูพรุน ทำให้ผมไวต่อความชื้นและแสงแดดกว่าปกติ นำไปสู่การเกิดผมแห้งและแตกปลายในที่สุด
เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเสียสภาพ นอกจากจะหลีกเลี่ยงการดัดผมหรือยืดผมบ่อยๆ แล้ว ควรเลือกใช้แชมพูที่อ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพผมทุกครั้งหลังสระผม ตลอดจนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เพื่อป้องกันเส้นผมจากการทำลายของรังสียูวีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ภาควิชาวิทยาการเภสัชกรรมและเภสัชอุตสาหกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เครื่องสำอางในชีวิตประจำวัน,
กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2544, หน้า 164.